ข่าวบอล ลิเวอร์พูล ตกรอบจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ทั้งเหย้าและเยือน สกอร์รวม 2-6 หลังจากนี้มี 5 สิ่งสำคัญที่กำลังรอ ลิเวอร์พูล อยู่ในอนาคตอันใกล้

ข่าวบอล ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสทำผลงานได้ไม่ดี ถ้าดูโดยภาพรวมของเกมที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เรอัล มาดริด ดูเหนือกว่าทุกทาง ปิดท้ายเกมด้วยประตูของ คาริม เบนเซม่า โดยสกอร์ผลรวมทิ้งห่างถึง 2-6

การเดินทางใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ของลิเวอร์พูล ได้สิ้นสุดลงเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ทั้งเหย้าและเยือน สกอร์รวม 2-6 ทางเข้า UFABET

ข่าวบอล ลิเวอร์พูล ฟุตบอลต่างประเทศ ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก บอลวันนี้

5 สิ่งสำคัญที่กำลังรอ ลิเวอร์พูล อยู่ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะโค้งสุดท้ายของปี 2022/23 นี้

1. ปัญหาการไปเยือน ต้องแก้ไข

เริ่มจะกลายเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้แล้ว ด้วยปัญหาของ ลิเวอร์พูล 2022/23 ไม่ได้ต่างไปจาก แมนฯ ยูไนเต็ด  นั่นคือก็ ผลงานเกมเยือน ที่ติดลบอย่างต่อเนื่อง

เมื่อตัวเป็นเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ก็พร้อมชนะได้ทุกทีม แต่เมื่อต้องออกไปเยือน กลับทำผลงานได้ไม่ดี

ปัญหานี้เห็นได้ตั้งแต่การออกสตาร์ทฤดูกาลนี้เลยทีเดียว เกมเยือน 5 นัดแรกของซีซั่น ลิเวอร์พูล ไม่สามารถคว้าชัยเอาชนะได้สักทีม

  • เสมอ ฟูแล่ม 2-2 (พรีเมียร์ลีก)
  • แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
  • เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
  • แพ้ นาโปลี 1-4 (ชปล.)
  • แพ้ อาร์เซน่อล 2-3 (พรีเมียร์ลีก)

จากนั้น จากวันเป็นเดือน จากหลายเดือนสู่ข้ามปี ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ลิเวอร์พูล ไม่อาจตั้งหลักเอาชนะเกมนอกบ้านได้เกินกว่าสองเกมติด ได้เลย หนเดียวที่้เกิดขึ้นในซีซั่นนี้คือปลายเดือน ต.ค. ที่บุกขยี้ อาแจ็กซ์ 3-0 ตามด้วยกลับมาบุกสยบ สเปอร์ส 2-1 ที่ลอนดอน แค่นี้ เท่านี้

อีกทั้งการออกไปแพ้ นาโปลี 1-4 นั่น ก็ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงให้บทสรุปของกลุ่มเอ ลิเวอร์พูล ต้องยอมเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ตามหลัง นาโปลี ทั้งที่แต้มเท่ากัน (15:15) แต่เป็นรองเรื่องเฮดทูเฮด นั่นเอง

อะไรที่ตามมาหลังจากนั้น?

รองแชมป์กลุ่มอย่าง ลิเวอร์พูล ถูกหยุดเส้นทางไว้อย่างรวดเร็ว ด้วยการแพ้ เรอัล มาดริด ทั้งขาขึ้นขาล่อง

ส่วนแชมป์กลุ่ม นาโปลี คว้าชัยไปได้พบ แฟร้งค์เฟิร์ต สกอร์รวม 5-0

นับรวมเกมล่าสุดที่เบร์นาเบวแล้ว จะเท่ากับว่า ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมเยือน 6 นัดหลังสุดโดยได้ผลชนะแค่เกมเดียวถ้วน และแพ้ไปถึง 4 นัดด้วยกัน

  • แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 (เอฟเอ คัพ)
  • แพ้ วูล์ฟส์ 0-3 (พรีเมียร์ลีก)
  • ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
  • เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
  • แพ้ บอร์นมัธ 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
  • แพ้ เรอัล มาดริด 0-1 (ชปล.)

นั่นทำให้ภาพรวมการลงสนามนัดเยือนซีซั่นนี้ ออกมาดูไม่ได้เอาเลย  ลงเล่น 20 นัด ชนะแค่ 6 เสมอ 3 และแพ้ไปถึง 11 เกมด้วยกัน หรือก็คือ “แพ้เกินครึ่ง”

ไม่ต้องสงสัย นี่คือปัญหาใหญ่มากๆ ที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องรีบแก้ ก่อนจะสายเกินไป

 ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ฟุตบอล ผลฟุตบอลต่างประเทศวันนี้

เหลือคิวเตะเกมเยือนอีก 6 นัด เป็นในพรีเมียร์ลีกล้วนๆ เพียงแต่ก็น่าปาดเหงื่อใช่ย่อยว่า 6 นัดนั้นดูจะไม่มีเกมไหนง่ายเลยทั้งสิ้น

01/04 เยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้

04/04 เยือน เชลซี

17/04 เยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด

26/04 เยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

13/05 เยือน เลสเตอร์ ซิตี้

28/05 เยือน เซาแธมป์ตัน

ข่าวบอล ลิเวอร์พูล

2. ท็อปโฟร์ พรีเมียร์ลีก

ต้องรีบปรับและวางแผนใหม่ในการออกทำศึกนอกบ้านให้เข้าที่เข้าทางโดยเร็วที่สุด เริ่มต้นหลังจากสิ้นสุดพักเบรคทีมชาติเดือนนี้ และในเวลาเดียวกัน ก็ต้องรักษามาตรฐานสูงๆ ของการเล่นใน แอนฟิลด์ เอาไว้ให้ตลอดรอดฝั่ง

ไม่ต้องพูดถึงหรือเท้าความสาธยายไปยังรายการอื่นอีก เมื่อสิ่งที่รอ ลิเวอร์พูล อยู่ในซีซั่นนี้ มีแต่บทสรุปของ พรีเมียร์ลีก 2022/23 เท่านั้น

ซึ่งก็นับว่าไม่เลวเลยกับผลงานเกมเหย้า ที่ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล ดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีกเวลานี้ทีเดียว

13 เกมเหย้า ได้มาเป็นชัยชนะ 9 เสมอ 3 แพ้แค่ 1 แต้มรวม 30

มากกว่านี้มีแค่ แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล แค่สองทีม

เมื่อผลงานดีแบบนี้ ไม่ต้องกลัวใครเลยทั้งสิ้นเมื่อได้เล่นในบ้าน ต่อให้ทีมที่มาเยือนจะเป็น อาร์เซน่อล  หรือ สเปอร์ส  หงส์ก็ยังดูข่มๆ ชาวบ้านเขาอยู่ดี

ดังนั้น ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องย้อนไปว่ากันถึงข้อ 1. ว่าต้องรีบปรับฟอร์มนอกบ้าน  ให้ได้เร็วที่สุด

ข่าวบอล ลิเวอร์พูล ข่าวกีฬา ข่าวพรีเมียร์ลีก ดูบอลสด ไฮไลท์ EPL

ข่าวบอล ลิเวอร์พูล

3. ถ้าไม่ได้ปีนี้ ก็ต้องปีหน้า

ถ้าฟอร์มนอกบ้านปรับแก้ไม่ทัน หากฟอร์มในบ้านก็สะดุดเอาในโค้งท้าย ซีซั่นหน้า 2023/24 จะยิ่งเลวร้ายกันเข้าไปใหญ่

เพราะในยุคของ คล็อปป์ ถ้าไม่นับปีตั้งไข่ช่วงแรกๆ แล้ว อย่างน้อย มาตรฐานคือการที่ ลิเวอร์พูล ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนพรีเมียร์ลีก เข้าร่วมชิงชัยในถ้วยบิ๊กเอียร์ UCL

ความต่อเนื่องนี้กินเวลามาถึง 6 ปีติดต่อกัน นับรวมซีซั่นนี้

  • 2017/18 รองแชมป์ (แพ้ เรอัล มาดริด 1-3)
  • 2018/19 แชมป์ (ชนะ สเปอร์ส 2-0)
  • 2019/20 ตกรอบ 16 ทีม
  • 2020/21 ตกรอบ 8 ทีม
  • 2021/22 รองแชมป์ (แพ้ เรอัล มาดริด 0-1)
  • 2022/23 ตกรอบ 16 ทีม

นี่คือมาตรฐานที่ คล็อปป์และทีมงานเบื้องหลัง ลงทุนลงแรงตั้งเอาไว้ และมันไม่ควรแตกแถวแตกแนว เป็นการพลาดเข้าเล่น ชปล. 2 ปีติด เป็นเด็ดขาด

เพราะก็อย่างที่เราท่านทราบกันดี แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเสมือนเวทีเงินเวทีทอง คว้าแชมป์ขึ้นมาก็รับทั้งเงินทั้งกล่อง เป็นโบนัสพิเศษแบบเต็มๆ

ข่าวฟุตบอลวันนี้ ข่าวบอลออนไลน์ ข่าวกีฬาออนไลน์

4. ตลาดนักเตะ ถูกที่ถูกเวลาหาให้เจอ

สัมพันธ์กันกับข้อก่อนหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเคยมีกระแสข่าวรายงานไว้ว่า เงื่อนไขแรกสุดที่ ลิเวอร์พูล จะถูกพิจารณาจาก จู๊ด เบลลิงแฮม ว่าจะมีโอกาสยื้อแย่งลายเซ็นของสตาร์ดอร์ทมุนด์หรือไม่ ก็คือการได้ไป-ไม่ได้ไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

และก็คงไม่ต่างกันกับนักเตะชั้นนำรายอื่นๆ ที่จะมีเรื่องของ ชปล. เข้ามามีเอี่ยวพิจารณา เป็นเสมือนแรงดึงดูดพิเศษที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักเตะและเอเยนต์

อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างจากศัตรูที่รัก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แสดงให้เห็นแล้วเหมือนกันว่า ถ้าเงินถึงพร้อมเปย์ การอดไป ชปล. ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญสุด

เพราะในซีซั่นนี้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เล่นแค่ยูโรป้า พวกเขายังคว้านักเตะใหม่ได้ 5-6 ราย ในจำนวนนั้นเป็นแข้งเวิลด์คลาสอย่าง กาเซมิโร่ เสียด้วย

ฉะนั้น ก็คงขึ้นอยู่กับ FSG ว่าจะใจป้ำขนาดไหน อนุมัติเงินเสริมทัพมากน้อยเพียงใด ในช่วงเวลาที่ (หากว่าในที่สุดแล้ว) ไม่มี ชปล. เป็นตัวสร้างรายได้

สิ่งสำคัญนอกเหนือจากเรื่องงบประมาณแล้ว ก็คือ คล็อปป์ และทีมงานสรรหา ควรต้อง “ซื้อตัวปังๆ” แบบที่ฉีกซองแล้วใช้งานได้เลย มากกว่าจะจ่ายเงินเพื่อซื้ออนาคต เน้นตัวอายุน้อยเหมือนที่ทำในตลอด 2-3 ปีหลัง

อย่าลืมว่า ขุมกำลังดูจะมาถึงจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญอีกรอบ อย่างน้อย แผงรุก SMF ก็จะปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์เมื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หมดสัญญาย้ายออก ยังมีแดนกลางที่ก็ดูว่าควรต้องปรับ ทั้งย้ายเข้าย้ายออก (อย่างน้อย มันไม่ควรเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ในวัย 37 ที่ต้องลงตัวจริงเกมบู๊ทีมอย่าง เรอัล มาดริด อีกแล้ว) เช่นเดียวกับหลังบ้าน ที่จะเก็บใครไว้ ปล่อยใครไป เสริมใครเข้ามาบ้าง

ข่าวฟุตบอล เว็บข่าวฟุตบอล อัพเดตสดใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง

5. อาถรรพ์ 7 ปี เยอร์เก้น คล็อปป์

มันอาจมีการพูดถึง อาถรรพ์ปี 7 ของโค้ชเยอรมัน ที่เป็นทั้งในจ๊อบก่อนหน้าและที่นี่ ที่แอนฟิลด์

– ไมนซ์ ในปีที่ 7 (2001-2008)

ตกชั้นกลับสู่ลีกาสอง, ไม่อาจพาทีมเลื่อนชั้นได้โดยเร็ว ก่อนยื่นใบลาออกในที่สุด

– โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปีที่ 7 (2008–2015)

ตกรอบ 16 ทีม ชปล., แพ้นัดชิง เดเอฟเบ โพคาล, แพ้ถึง 14 นัดในลีกจนจบอันดับ 7 ที่สุดแล้วต้องขอลาออกตั้งแต่ยังไม่จบซีซั่น

– ลิเวอร์พูล ในปีที่ 7 (2015 เป็นต้นมา)

เริ่มต้นซีซั่นได้แย่ที่สุดในยุคตัวเอง, เจอปัญหานักเตะเจ็บตลอดซีซั่น, ตกรอบบอลถ้วยทุกรายการ, แชมป์พรีเมียร์ลีกหมดลุ้น, ได้แค่สู้เพื่อจบท็อปโฟร์

ดังจะเห็นว่า นี่คือปีที่อ่วมจริง แย่จริงไม่อิงนิยาย เป็นเหมือนปีที่ คล็อปป์ กับลูกทีมหงส์ตกที่นั่ง “ปีชง” โดยไม่ได้เดินเข้าวัดสะเดาะเคราะห์ที่ไหน

แต่ก็อีกนั่นแหละ บอร์ดหงส์ไม่อาจใจร้อน ตัดสินโดยเอาผลลัพธ์ของปีนี้เป็นที่ตั้งได้เลย ต่อให้ในท้ายที่สุดจะไม่จบ 4 อันดับแรก อดไป ชปล. ขึ้นมาจริงๆ ก็ตาม

เพราะลืมไม่ได้เด็ดขาด ว่านี่คือยอดโค้ชระดับหนึ่งในยุทธจักร เป็นคนแรกและคนเดียวที่พา ลิเวอร์พูล ครองแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมๆ กับที่ขึ้นบัลลังก์เจ้ายุโรปได้อีก 1 สมัย สมัครได้ง่ายๆผ่าน Line : @UFA88SV1


ศูนย์รวม  ทรรศนะฟุตบอล  วิเคราะห์บอล ข่าวบอล ลิเวอร์พูล พร้อมทั้ง ทีเด็ดบอล ทีเด็ดเซียน จากกูรูคุณภาพ

อัพเดท ผลฟุตบอลทั่วโลก พรีเมียร์ลีก ไทยลีก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ให้แบบสดๆร้อนๆ

ข่าวตลาดซื้อขายนักเตะ ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ไฮไลท์บอลย้อนหลัง อัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง


ติดตาม ข่าวสารฟุตบอล ไปกับเรา ศูนย์รวม ทรรศนะฟุตบอล

ห้ามพลาด !!

อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬาพร้อมทีเด็ดแม่นๆจากกูรูชั้นนำ

คลิกเลย @Gurusportv1

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า